วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รายงานการตรวจสอบกิจการ ประจำเดือนกรกฎาคม 2559

รายงานการตรวจสอบกิจการ
สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสิงห์บุรี จำกัด
ประจำเดือน กรกฎาคม  2559
เรียน   คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสิงห์บุรี จำกัด
          ผู้ตรวจสอบกิจการ ทั้ง 5 คน ได้ดำเนินการตรวจสอบกิจการ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2559 ตามแผนที่กำหนดไว้ จึงขอรายงามผลการตรวจสอบ ดังนี้
1. เรื่องที่ตรวจ
   1.1  การกู้เงิน ของสมาชิก  
    1.2  การเรียกเก็บเงินงวดชำระหนี้
     2. วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบ
      2.1 เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการให้เงินกู้
        2.2  เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารหลักฐานตามกระบวนการเรียกเก็บเงินงวดชำระหนี้             
3. ขอบเขตและวิธีการตรวจสอบ
      3.1 ตรวจสอบหลักฐานการคำขอกู้ สัญญาการกู้ ประจำเดือนมิถุนายน 2559 ของหน่วยอำเภอเมือง ท่าช้าง และค่ายบางระจัน
       3.2  ตรวจสอบเอกสารงบหน้าการเรียกเก็บเงินงวดชำระหนี้ ของเดือน มิถุนายน 2559 เปรียบเทียบหลักฐานตาม 3.1 และทะเบียนสมาชิกรายตัว (จัดทำด้วยมือ)
4. ผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะ
     4.1 ผลการตรวจสอบ              
(1) เรื่องการกู้เงิน ของสมาชิก  
 จากการตรวจสอบหลักฐานคำขอกู้ การพิจารณาของอนุกรรมการเงินกู้ สัญญาการกู้ พบว่ามีรายละเอียดหลักฐานประกอบการพิจารณาที่ผู้ขอกู้นำเสนอและที่ฝ่ายจัดการนำเสนอ จำนวนยอดเงินที่ที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการอนุมัติ ถูกต้องตรงกับสัญญาเงินกู้ที่จัดทำ
   ข้อสังเกต  ได้ตรวจสอบข้อมูลของ คุณอรุณลักษณ์ ปานคง ได้รับการพิจารณาให้กู้สามัญไป จำนวน 770,000 บาท ตามเกณฑ์ที่พึงได้รับ เมื่อตรวจดูข้อมูลตำแหน่งหน้าที่พบว่า มีหนังสือรับรองของเทศบาลเมืองสิงห์บุรี รับรองว่านางสาวอรุณลักษณ์ ปานคง เป็นพนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดตึกราชา สัญญาจ้างตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2559 ตามสัญญาเงินกู้ที่ทำไว้กับสหกรณ์ฯ ผู้กู้ต้องส่งเงินต้นชำระหนี้ จำนวน 180 งวด คิดเป็นเวลา 15 ปี มีคนค้ำประกันเป็นข้าราชการ 1 คน อีก 2 คน เป็นลูกจ้าง นับเป็นการอนุมัติให้กู้ที่มีอัตราความเสี่ยงสูง หากย้อนไปตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นสมาชิก ก็ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะรับเข้าเป็นสมาชิกได้ ตามข้อบังคับข้อ 32 (2) ง. ระบุคุณสมบัติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบุคลกรของเทศบาลไว้ว่า” เป็นพนักงานครูเทศบาลซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้สอนประจำในสถานศึกษา หรือในฝ่ายการศึกษา หรือกองการเทศบาลในจังหวัดสิงห์บุรี หรือทำงานในหมวดการศึกษาเทศบาล.
นางสาวอรุณลักษณ์  ปานคง เป็นเพียงพนักงานจ้างตามภารกิจตามสัญญาจ้างเป็นรายปี จึงถึอว่าไม่มีคุณสมบัติการเป็นสมาชิก
ข้อเสนอแนะ 1. เรียกเงินกู้คืน ก่อนที่ผู้กู้จะหมดสัญญาจ้าง ทั้งนี้ให้คณะกรรมการดำเนินการหาวิธีการเรียกคืนเงินจะด้วยกระบวนการใดก็ตาม ให้เกิดความชัดเจนว่าสามารถเรียกคืนได้ภายในระยะเวลาปีการเงินนี้
                        2. เสนอแนะให้ผู้กู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกสมทบ ซึ่งมีสิทธิกู้ได้ตามเกณฑ์ของสมาชิกสมทบ โดยให้คืนเงินส่วนที่เกิน       

 (2) เรื่องการเรียกเก็บเงินงวดชำระหนี้
          จากการศึกษาเอกสารหลักฐานและสอบถามกระบวนการทำงานจากเจ้าหน้าที่พบว่า ก่อนที่จะเรียกเก็บเงินงวดชำระหนี้จากสมาชิก โดยส่งงบหน้าให้หน่วยต้นสังกัดจัดเก็บให้ พร้อมทั้งส่งในเสร็จรับเงินจำนวนตรงกับงบหน้า เพื่อส่งมอบให้สมาชิก งบหน้าดังกล่าวจะนำมาตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยตรวจสอบกับทะเบียนสมาชิกรายตัวซึ่งจัดทำด้วยมือ หากตรวจสอบและไม่ตรงกับต้องค้นหาข้อผิดพลาดว่าอยู่ส่วนใดแล้วดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง จึงน่าจะเชื่อมั่นในความถูกต้องได้ เมื่อมีการดำเนินการตามระบบดังที่กล่าวนี้
            จากการสุ่มตรวจหน่วยอำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอท่าช้าง และอำเภอค่ายบางระจันเดือนมิถุนายน พบว่า
            1. การจัดเก็บงบหน้า ได้รวบรวมไว้เป็นรายเดือนจัดทำเป็นเล่ม มีคำชี้แจงเสมือนสารบัญ บ่งบอกให้ทราบว่า เลข 2 ตัวหน้าของสมาชิก เป็นเลขรหัสแสดงหน่วยงาน เรียงตามลำดับ ตั่งแต่ 01 ไปจนครบจำนวนที่กำหนดแยกไว้ หากได้ดูรหัสนี้แล้วจะสามารถค้นหาได้ง่ายและรวดเร็ว แต่การจัดเก็บได้นำชุดที่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบแต่ละบุคคลมารวมแล้วเย็บเล่มโดยยังไม่ให้ความสำคัญของรหัสประจำหน่วย ทำให้การค้นหาต้องใช้เวลานาน และหาไม่พบ
            2. ได้ตรวจสอบคุณวรินทรา ชัยบูรณ์ ซึ่งกู้ในเดือนมิถุนายน ตามงบหน้ามีปรากฏอยู่ในรายละเอียดของโรงเรียนวัดสังฆราชาวาส เมื่อมาสอบทานกับทะเบียนสมาชิกรายตัว ไม่พบราบละเอียด จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้จัดทำได้แจ้งว่า ยังไม่ได้ย้ายทะเบียนมาให้ตรงตำแหน่งที่ดำรงอยู่ เมื่อตรวจสอบยอดกู้สามัญที่ทำไว้ก็พบจำนวนเงินไม่ตรงกับสัญญา แต่ไปพบในช่องการกู้ ฉ.ฉ. ยอดกู้ ฉ.ฉ ไปอยู่ในช่อก็สวัสดิการ กู้สวัสดิการ ไปอยู่ช่อง ฉ.ฉ  และได้นำทะเบียนของอำเภอท่าช้างมาสุ่มตรวจสอบพบว่ามีการลงถูกต้องตรงรายการ
            3. ได้พบข้อมูลการให้กู้สวัสดิการ ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าคืออะไร เจ้าหน้าที่ได้นำแบบคำขอกู้และสัญญามาให้ดูพบว่า เป็นการกู้เพื่อชำระเบี้ยประกันสินเชื่อ ไม่พบระเบียบหรือหลักเกณฑ์หรือโครงการที่เกี่ยวกับเรื่องนี้
ข้อสังเกต
          1.เจ้าหน้าที่ขาดความรอบคอบ และยังมีจิตสำนึกในบทบาทหน้าที่ของตนเองไม่มากพอ ไม่มีการพัฒนางาน
          2. การกู้สวัสดิการเพื่อชำระเบี้ยประกันสินเชื่อ ตามระเบียบว่าด้วยการให้เงินกู้แก่สมาชิกสหกรณ์ พ.ศ. 2555 ข้อ 36.2กำหนดไว้ว่า “ เงินกู้เพื่อสวัสดิการแก่สมาชิก ให้คณะกรรมการดำเนินการกำหนด เกณฑ์ กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และหลักประกันเงินกู้ไว้ให้ชัดเจนในแต่ละโครงการ และประกาศให้สมาชิกทราบโดยทั่วกัน”
ข้อเสนอแนะ
            1.เจ้าหน้าที่ควรได้รับการพัฒนา ให้ทราบบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน และเสริมสร้างจิดสำนึกในองค์กร นอกจากนี้ควรมีการกำกับติดตาม เป็นระยะๆ อาจใช้วิธ๊ทำ MOU เป็นช่วง ๆ ระยะเวลา เมื่อมีผู้ปฏิบัติดี
ควรมีการให้รางวัลเป็นการเสริมแรง ในขณะเดียวกันผู้พัฒนาแล้วไม่ปรับตัวต้องมีบทลงโทษ
            2. เรื่องการให้เงินกู้ควรจัดทำระเบียบ หรือประการให้ชัดเจนตามระเบียบ เนื่องจากเป็นเรื่องที่สำคัญส่งผลต่อการดำเนินการและเกี่ยวของกับหลายส่วนเช่นบริษัทประกัน การดำนินคดีทางศาล เป็นต้น ควรมีการตรวจสอบ รวบรวม และจัดทำให้เป็นหลักฐาน อย่างน้อยก็เพื่อส่งมอบให้คณะกรรมการชุดต่อไปดำเนินงานได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามระเบียบฯ
                       
                                สุมารี  อุสาหะ                          ผู้ตรวจสอบกิจการ
                                จ.ส.อ.ดิเรก   พรประเสริฐ          ผู้ตรวจสอบกิจการ
                                            สุมาลี  ชูจันทร์                         ผู้ตรวจสอบกิการ
                                     สำราญ  ชูเนตร                    ผู้ตรวจสอบกิจการ
                                       วันชัย  กล้าเอี่ยม                   ผู้ตรวจสอบกิจการ