วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560

รายงานการตรวจสอบกิจการเดือนสิงหาคม

รายงานการตรวจสอบกิจการ
สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสิงห์บุรี จำกัด
ประจำเดือน  สิงหาคม  2560
เรียน   คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสิงห์บุรี จำกัด
          ผู้ตรวจสอบกิจการ ทั้ง 4  คน  ได้ดำเนินการตรวจสอบกิจการ เมื่อวันที่ 12  กันยายน  2560 ตามแผนที่กำหนดไว้ จึงขอรายงามผลการตรวจสอบ ดังนี้
1. เรื่องที่ตรวจ
   1.1  ติดตามการดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ได้ให้ไว้ในการตรวจสอบ ฯ เดือน กรกฎาคม 2560
   1.2  ตรวจสอบการดำเนินการหลังการใช้เงินทุนสาธารณประโยชน์
   1.3 ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินกองทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม
    2. วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบ
        2.1 เพื่อตรวจสอบการดำเนินการตามข้อสังเกต และข้อเสนอแนะ
        2.2 เพื่อตรวจสอบหลักฐานการใช้จ่ายเงินทุนสาธารณประโยชน์ ว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่

         2.3 เพื่อตรวจสอบการข้อมูลสภาพใช้จ่าย เงินทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม     3. ขอบเขตและวิธีการตรวจสอบ
          3.1 สอบถามและตรวจสอบการดำเนินการตามข้อเสนอแนะและข้อสังเกต
          3.2 ตรวจสอบหลักฐานการดำเนินการหลังการใช้เงินทุนสาธารณประโยชน์ว่าเป็นไปตามระเบียบฯเพียงใด
          3.3 ตรวจสอบข้อมูลสภาพเงินทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
4. ผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะ
          (1) เรื่องการติดตามการดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ได้ให้ไว้ในการตรวจสอบ ฯ เดือนมิถุนายน 2560

แบบติดตามการดำเนินการแก้ไข ตามรายงานผลการตรวจสอบกิจการ
ประจำเดือน  กรกฎาคม  2560


ข้อสังเกตที่พบ
ผลการแก้ไข
ข้อเสนอแนะเพื่อพิจารณา
ดำเนินการต่อไป
1 มีการจ่ายเงินค่าทัวร์โครงการศึกษาดูงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูระนองเกินกว่าจำนวนผู้เดินทางไปศึกษาดูงาน จำนวน 2 คนเป็นเงิน 15,400 บาท เนื่องจากเกิดความสบสนในการนับจำนวนสมาชิกผู้ร่วมกิจกรรมตามโครงการ
1.อยู่ระหว่างการดำเนินการ
1. ให้ประสานบริษัททัวร์เพื่อขอคืนเงินส่วนเกิน
2. การจ่ายเงินทุนสาธารณประโยชน์รายการทุนการศึกษาบุตรสมาชิก และจ่ายหน่วยงาน กลุ่มหน่วยงาน ได้มีการมอบหมายให้กรรมการแต่ละหน่วยรับไปมอบให้ซึ่งไม่เป็นการถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการจ่ายเงิน
2 ได้มีการดำเนินการจัดทำระเบียบผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการอำนวยการแล้ว ซึ่งจะได้นำสู่การพิจารณาของคณะกรรมการดำเนินการต่อไป
2.หากคณะกรรมการจะอำนวยความสะดวกให้สมาชิกและหน่วยงานควรกำหนดระเบียบว่าด้วยการยืมเงินทดรองจ่าย เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
3.ระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการดำเนินการยังขาดการรายงานการใช้จ่ายเงินทุนเพื่อการศึกษาและกองทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม





3.1. ได้มีการมอบหมายกรรมการให้ดำเนินการจัดทำระเบียบแล้ว
3.2 ฝ่ายจัดการได้ดำเนินการแล้ว









3.1ให้เร่งรัดจัดทำระเบียบว่าด้วยการใช้เงินทุนเพื่อการศึกษาอบรม
3.2 ในช่วงไม่มีระเบียบให้จัดทำวาระขออนุมัติใช้จ่ายเงินทุนเพื่อการศึกษาอบรมให้ชัดเจนก่อนการใช้
3.3 วาระการประชุมคณะกรรมการดำเนินการทุกเดือนต้องมีการรายงานความเคลื่อนไหวของเงินทุนเพื่อการศึกษาอบรม และทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม เช่นเดียวกับเงินทุนสาธารณประโยชน์ที่
มีการดำเนินการอยู่แล้ว

4.1 ไม่พบโครงการจัดงานมุทิตาจิตแด่สมาชิกที่เกษียณอายุราชการประจำปีการเงิน 2560 ในแผนปฏิบัติการประจำปี 2560 แต่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่าย
ต่าง ๆ ให้ปฏิบัติงานตามโครงการ ซึ่งแสดงถึงการให้ความสำคัญในการใช้แผนเป็นเครื่องมือไม่มากนัก
4.2 คณะกรรมการแต่ละฝ่ายมีการดำเนินการไปเกือบแล้วเสร็จ
4.3 การนำเงินสดไปจ่ายนอกสำนักงานเป็นความเสี่ยง และไม่มีระบียบรองรับ





4.1 ฝ่ายแผนได้จัดทำโครงการฯเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว
4.2 คณะกรรมการฝ่ายจัดหายานพาหนะ ฝ่ายที่พัก และอาหารได้จัดทำรายงานการจัดจ้างตามระเบียบแล้ว ส่วนฝ่ายอื่นที่เหลือยังไม่พบการดำเนินการ
4.3 มีการจัดทำสัญญายืมเงินโดยใช้รูปแบบของทางราชการ
4.1 ให้จัดทำโครงการฯเพิ่มลงในแผนปฏิบัติการ และให้จัดทำให้แล้วเสร็จเป็นเล่มให้เรียบร้อย
4.2 ให้คณะกรรมการแต่ละฝ่ายดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุ และระเบียบว่าด้วยการจ่ายเงินของสหกรณ์
4.3 ให้คณะกรรมการดำเนินการพิจารณาให้มีการจัดทำสัญญายืมเงินเพื่อไปจ่ายนอกสถานที่ เนื่องจากยังไม่มีระเบียบ


         (2) ตรวจสอบการดำเนินการหลังการใช้เงินทุนสาธารณประโยชน์
                 ได้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินทุนสาธารณประโยชน์ พบว่าในปีการเงิน 2560 มีการใช้จ่ายไปแล้ว จำนวน 615,800 บาท จากจำนวนทั้งสิ้น 731,800 บาท คงเหลือ 116,000บาท โดยใช้จ่ายตามระเบียบว่าด้วยการใช้เงินทุนสาธารณประโยชน์ ของสหกรณ์ ซึ่งได้จ่ายเป็นทุนการศึกษาบุตรสมาชิก จ่ายให้หน่วยงานทางการศึกษา กลุ่มหน่วยงาน และจ่ายเพื่อการกุศล ตามที่ระเบียบกำหนด
         ข้อสังเกต เงินช่วยเหลือหน่วยงานทางการศึกษา กลุ่มหน่วยงาน ที่คณะกรรมการเห็นชอบจัดสรรให้อย่างทั่วถึง สหกรณ์ฯยังไม่ได้พิจารณาข้อ 13 แห่งระเบียบว่าด้วยการใช้เงินทุนสาธารณประโยชน์ ซึ่งระบุว่า
          “ข้อ 13  คณะกรรมการดำเนินการอาจแต่งตั้งอนุกรรมการขึ้น  ติดตามการใช้ทุนสาธารณประโยชน์   ของหน่วยงานต่าง ๆ  เพื่อประกอบการพิจารณาให้ทุนสาธารณประโยชน์ในปีต่อ ๆ  ไป  และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้ทุนสาธารณประโยชน์”
           สำหรับวัตถุประสงค์ได้ระบุไว้ในข้อ 11 ดังนี้
          “ข้อ 11  ให้คณะกรรมการดำเนินการพิจารณาจัดสรรทุนสาธารณประโยชน์  เพื่อช่วยเหลือหน่วยงานทางการศึกษาในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม  โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่สมาชิกของสหกรณ์จะได้รับ”
           การขาดการดำเนินการทำให้ขาดข้อมูลในการพิจารณา เงินที่จ่ายไปจึงอาจไม่คุ้มค่า บางหน่วยงานไม่ปรากฏมีกิจกรรมดำเนินการ เช่นกลุ่มโรงเรียนบางกลุ่ม ยุบรวมไปแล้ว แต่ก็ยังมีการจัดสรรไปให้เป็นต้น นอกจากนี้ ข้อ 18 แห่งระเบียบยังได้กำหนดไว้ ดังนี้

       “ ข้อ 18  ในการจ่ายเงินทุนสาธารณประโยชน์ไม่ว่ากรณีใด ๆ  ก็ตามจะต้องมีหลักฐานประกอบการจ่ายเงินทุกรายดังนี้
                   18.1  ถ้าสหกรณ์จ่ายทุนสาธารณประโยชน์ในฐานะเป็นผู้จัดกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเอง  ต้องมีใบสำคัญรับเงิน  หรือหลักฐานการจัดทำ  หรือจัดซื้อโดยละเอียด
                   18.2  ถ้าสหกรณ์จ่ายทุนสาธารณประโยชน์สมทบ  เพื่อการใดต้องให้ผู้มีอำนาจในการจัดทำ  หรือ ผู้มีอำนาจในการรับเงินนั้นออกหลักฐานการรับเงินนั้น ๆ  ให้แก่สหกรณ์โดยครบถ้วนและถูกต้อง”
          ในปีนี้ สหกรณ์ จัดบริการแก่หน่วยงาน โดยให้กรรมการเซ็นรับเงินเพื่อไปจ่ายให้หน่วยงาน ซึ่งเป็นการบริการที่ไม่สอดคล้องกับระเบียบ และอาจเกิดข้อสงสัยได้
     
          ข้อเสนอแนะ  ควรมีการดำเนินการตามระเบียบ ข้อ 13 เพื่อเป็นข้อมูลจัดสรรปีต่อไป
หากมีการดำเนินการตามข้อ 13 ก็จะได้ข้อมูลและหลักฐานตามข้อ 18 แห่งระเบียบด้วย

         
           (3) ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินกองทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม
             จากการตรวจสอบรายงานการประชุมของคณะกรรมการดำเนินการ พบว่า ในปีนี้มีแนวคิดที่จะมอบสวัสดิการให้สมาชิกเพิ่มมากขึ้นในหลายรูปแบบ และให้ทั่วถึงสมาชิกทุกคน โดยมีแนวคิดที่จะจัดสวัสดิการให้กับสมาชิกผู้มาประชุมใหญ่คนละ 300 บาท เมื่อรวมกับเบี้ยประชุมที่เคยได้รับ 1.200 บาท จะได้รับคนละ 1,500 บาท และมีแนวคิดมอบสวัสดิการในการแต่งงานครั้งแรกของสมาชิก จำนวน 5,000 บาท และให้สวัสดิการแก่การมีบุตรคนแรก จำนวน 2,000บาท นับเป็นเรื่องที่ดี    
และควรกระทำอย่างยิ่ง

               ข้อสังเกต  องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความเป็นไปได้ในระดับที่พึงพอใจ เห็นว่ามีดังนี้
                1.  ระเบียบที่เกี่ยวข้อง  ถ้าเงินที่จะใช้เป็นเงินกองทุนซึ่งจัดสรรมาจากกำไรสุทธิประจำปี ระเบียบหรือหลักเกณฑ์การจ่ายก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการกำหนด นับว่าไม่มีปัญหา
                2 เงินที่จะใช้ต้องเพียงพอ ดังนั้นความจำเป็นในด้านข้อมูลต้องแม่นยำและชัดเจน
                3. แหล่งที่มาของเงินทุน ณ ปัจจุบันมี 2 แหล่ง คือ เงินทุนเดิมที่เหลือจากปีที่ผ่านมา และการจัดสรรกำไรสุทธิในปีที่จะสิ้นสุด
                   3.1 เงินทุนเดิม”เงินทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม” จากการตรวจสอบพบว่ามีคงเหลือ เพียง 247,522.38 บาท ทั้งนี้ได้ตรวจสอบยอดเงินตามบัญชีเงินฝากธนาคาร ชื่อบัญชี “กองทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม” จำนวน 3 ล้านเศษ ที่มีการกล่าวถึงมาตั้งแต่ต้นปีนั้น เงินยอดนี้มีการใช้จ่ายมาตั้งแต่ปีการเงิน 2547 โดยมีการจัดสรรกำไรเพิ่มขึ้น มีการใช้จ่าย ซึ่งยอดรายการจะปรากฏทุกปีตามงบดุล ในรายการเงินทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม แต่บัญชีเงินฝากธนาคารที่ปรากฏก็มียอดแสดงเป็นเงินของสหกรณ์ ซึ่งมิได้ถอนตามที่ระเบียบกำหนด ด้วยเหตุผล หาผู้มีอำนาจถอนได้ไม่ครบ จึงล่วงเลย ปรากฏให้เกิดการเข้าใจที่คาดเคลื่อน
                    3.1 เงินใหม่ที่จะได้จากกำไรสุทธิในปี่นี้ ซึ่งจะสามารถคาดการณ์ได้พอสมควรเพราะมีเวลาอีกเพียง 2 เดือนก็สิ้นปี
               ข้อเสนอแนะ    ควรมีผู้ศึกษาข้อมูลที่ชัดเจนและวางแผนให้รัดกุม


                                                     สุมารี  อุสาหะ                         ผู้ตรวจสอบกิจการ
                                                  จ.ส.อ.ดิเรก   พรประเสริฐ          ผู้ตรวจสอบกิจการ
                                                  สุมาลี  ชูจันทร์                          ผู้ตรวจสอบกิการ            
                                                  วันชัย  กล้าเอี่ยม                  ผู้ตรวจสอบกิจการ
























รายงานการตรวจสอบกิจการเดือนกรกฎาคม

รายงานการตรวจสอบกิจการ
สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสิงห์บุรี จำกัด
ประจำเดือน กรกฎาคม 2560
เรียน   คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสิงห์บุรี จำกัด
          ผู้ตรวจสอบกิจการ ทั้ง 4  คน  ได้ดำเนินการตรวจสอบกิจการ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม  2560 ตามแผนที่กำหนดไว้ จึงขอรายงามผลการตรวจสอบ ดังนี้
1. เรื่องที่ตรวจ
   1.1  ติดตามการดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ได้ให้ไว้ในการตรวจสอบ ฯ เดือน มิถุนายน 2560
   1.2  ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินโครงการศึกษาดูงาน
   1.3 ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินกองทุน
   1.4  ตรวจสอบการดำเนินการโครงการจัดงานมุทิตาจิตแด่สมาชิกที่เกษียณอายุราชการประจำปีการเงิน 2560
    2. วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบ
        2.1 เพื่อตรวจสอบการดำเนินการตามข้อสังเกต และข้อเสนอแนะ
        2.2 เพื่อตรวจสอบการใช้จ่ายเงินโครงการศึกษาดูงาน  ค่าทัวร์บริการเหมาจ่าย ว่าถูกต้องตามสัญญาหรือไม่
         2.3 เพื่อตรวจสอบการใช้จ่ายเงินทุนสาธารณประโยชน์ เงินทุนเพื่อการศึกษาอบรม เงินทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคมว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่
         2.4 เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของโครงการ ถูกต้องตามขั้นตอนและเป็นไปตามระเบียบฯหรือไม่ อย่างไร
        3. ขอบเขตและวิธีการตรวจสอบ
          3.1 สอบถามและตรวจสอบการดำเนินการตามข้อเสนอแนะและข้อสังเกต
          3.2 ตรวจสอบหลักฐานการจ่ายเงินโครงการศึกษาดูงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูระนอง รายการค่าทัวร์เปรียบเทียบกับสัญญาที่ทำไว้กับผู้รับจ้างหรือไม่
      3.3 ตรวจสอบหลักฐานการจ่ายเงินกองทุน เปรียบเทียบระเบียบและมติคณะกรรมการ
      3.4 ตรวจสอบกระบวนการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดงานแสดงมุทิตาจิตฯ แต่ละคณะว่ามีแนวทางการดำเนินการตามระเบียบของสหกรณ์หรือไม่
4. ผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะ
          (1) เรื่องการติดตามการดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ได้ให้ไว้ในการตรวจสอบ ฯ เดือนพฤษภาคม 2560
แบบติดตามการดำเนินการแก้ไข ตามรายงานผลการตรวจสอบกิจการ
ประจำเดือน  มิถุนายน  2560

ข้อสังเกตที่พบ
ผลการแก้ไข
ข้อเสนอแนะเพื่อพิจารณา
ดำเนินการต่อไป
1.เจ้าหน้าที่การเงินได้จ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงในการศึกษาดูงานให้กับผู้มารับแทนผู้ไม่ได้ไปเข้าร่วมศึกษาดูงานจำนวน 1 ราย เป็นเงิน 1,500 บาท
1.คณะกรรมการได้เรียกคืนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
1. ให้เรียกคืนจากผู้ที่รับเงินไป
2. รายรับที่เกิดจากค่าธรรมเนียมแรกเข้ามีจำนวนที่ต่ำกว่าประมาณการถึงร้อยละ 82

2. ฝ่ายประชาสัมพันธ์รับไปดำเนินการ
2. ควรมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนเข้าเป็นสมาชิก และประชาสัมพันธ์เจาะกลุ่มบุคคลเป้าหมาย

         (2) การใช้จ่ายเงินโครงการศึกษาดูงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูระนองรายการค่าทัวร์
                   จากการสอบถามข้อมูลจากผู้จัดการ และตรวจสอบข้อตกลงกับบริษัททัวร์พบว่า มีข้อตกลงการบริการเป็นรายหัวตามจำนวนผู้ที่ไปศึกษาดูงาน ซึ่งเดิมมีการสำรวจ และมีผู้ประสงค์ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงาน จำนวน 37 คนและเมื่อถึงกำหนดเวลาเดินทาง ได้มีการตรวจสอบรายชื่อว่าครบ 37 คนหรือไม่ ได้รับการยืนยันว่าครบ ผู้จัดการจึงได้จ่ายเงินให้บริษัททัวร์ จำนวน 284,900 บาท แต่เมื่อเดินทางจริงมีผู้ติดภารกิจจำเป็นไม่สามารถร่วมเดินทางไปได้ จำนวน 2 คน คงเหลือ ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานจำนวน 35 คน ได้รับการยืนยันจากผู้จัดการว่า ข้อตกลงกับบริษัทคือ จำนวนผู้เดินทางไปจริง ในอัตราคนละ 7,700 บาท  จึงจ่ายเงินเกินไป จำนวน 15,400 บาท

         ข้อสังเกต  มีการจ่ายเงินตามจำนวนแห่งข้อตกลงจริง แต่มีความผิดพลาดด้านการตรวจสอบข้อมูลจำนวนคน

         ข้อเสนอแนะ  ให้ประสานบริษัททัวร์เพื่อเรียกเงินส่วนเกินคืน

         (3) การจ่ายเงินกองทุนสาธารณประโยชน์ ทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม ทุนเพื่อการศึกษาอบรม
             จากการตรวจสอบเอกสารรายงานการประชุมฉบับ วันที่ 19 กรกฎาคม 2560 พบมีการใช้จ่ายเงินทุนสาธารณประโยชน์ เงินทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม และเงินทุนเพื่อการศึกษาอบรม

           ข้อสังเกต  1. เงินทุนสาธารณประโยชน์ ที่ประชุมอนุมัติ จ่ายเป็นทุนการศึกษาบุตรสมาชิก จำนวน 136,300 บาท  จ่ายหน่วยงานและกลุ่มหน่วยงาน จำนวน 409,900 บาท จำนวมทั้งสิ้น 545,300บาท  แต่การจ่ายคณะกรรมการนำเงินไปจ่าย และให้ผู้รับลงชื่อรับนำมาให้สหกรณ์ฯ ซึ่งวันที่รับจะแตกต่างกัน การลงบัญชีจะไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง คณะกรรมที่รับเงินไปก็ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการจ่ายเงิน
                          2 เงินทุนสะสมเพื่อสวัสดิการสมาชิกและสังคม มีการจ่ายให้สวัสดิการตามระเบียบ และมีการรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการ แต่ถ้านำมารายงานจำนวนคงเหลือและรายการที่ใช้ไปในเดือนนี้ เช่นเดียวกับการรายงานเงินทุนสาธารณประโยชน์ จะทำให้สามารถบริหารเงินกองทุนได้ดี
                          3. เงินทุนเพื่อการศึกษาอบรมไม่มีระเบียบ แต่มีการใช้จ่าย และยังไม่พบว่ามีการรายงานยอดคงเหลือ และการใช้จ่ายให้ที่ประชุมรับทราบ และอนุมัติอย่างชัดเจน

           ข้อเสนอแนะ   1 .ควรกำหนดระเบียบว่าด้วยเงินยืมทดลองจ่าย เพื่อใช้ในการบริหารเงิน เช่น การให้เงินกรรมการไปจ่ายเงินทุนการศึกษาบุตรสมาชิก จ่ายให้หน่วยงานทางการศึกษา หากมีระเบียบรองรับจะมีความโปร่งใส ป้องกันความเสี่ยง และถูกต้องตามวัตถุประสงค์  สำหรับระเบียบนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เคยมีหนังสือแนะนำ และมีตัวอย่างระเบียบให้ดำเนินการ
                               2. เงินทุนทั้ง 3 ทุน ดังกล่าวข้างต้น มีการเคลื่อนไหวในการใช้ การบริหาร ทุกเดือน ควรนำแจ้งที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการ เช่นเดียวกับทุนสาธารณประโยชน์
                               3. เมื่อยังไม่มีระเบียบที่เกี่ยวข้องกับทุนการศึกษาอบรม หากจำเป็นต้องใช้ต้องนำเข้าขออนุมัติคณะกรรมการให้มีความชัดเจนว่าใช้ทำอะไร เมื่อไร จำนวนเท่าไร
  
           (4) การดำเนินการโครงการจัดงานมุทิตาจิตแด่สมาชิกที่เกษียณอายุราชการประจำปีการเงิน 2560

           ได้ตรวจสอบเอกสารการประชุมคณะกรรมการดำเนินการ ครั้งที่ 8/2560 วันที่ 19 กรกฎาคม 2560 พบว่า เป็นโครงการตามแผนกลยุทธ์ที่ 2 แต่เมือขอตรวจสอบรายละเอียดของโครงการตามแผนปฏิบัติการ ปี 2560 ไม่พบว่ามีโครงการนี้ แต่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานแสดงมุทิตาจิตแด่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสิงห์บุรี จำกัด โดยมีคณะกรรมการถึง 9 ฝ่าย
            จากการติดตามการดำเนินการของคณะกรรมการแต่ละฝ่าย มีการดำเนินการไปก้าวหน้าเกือบจะแล้วเสร็จ ในแต่ละฝ่าย ซึ่งส่วนใหญ่ใช้แนวการดำเนินการเดิม ๆ ตามที่ผ่านมา และเสมือนเป็นการดำเนินการที่เร่งรีบ จึงทำให้ขาดการพิจารณาระเบียบต่าง ๆ ที่สหกรณ์กำหนดไว้ ทั้งนี้ การดำเนินการที่ผ่านมา คณะผู้ตรวจสอบกิจการได้เคยให้ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะไว้แล้ว

             ข้อสังเกต  1. การบริหารงานของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องยังให้ความสำคัญกับการใช้แผนเป็นเครื่องมือไม่มากนัก ประกอบกับแผนปฏิบัติงานยังขาดความสมบูรณ์
                           2. โครงการนี้มีรายการที่จำเป็นต้องใช้เงินค่อนข้างสูง และหลายรายการ หากขาดความรอบคอบและให้ความสนใจในระเบียบน้อย จะทำให้ขาดหลักความถูกต้อง และประหยัด
                          3. การนำเงินสหกรณ์ออกไปเพื่อใช้จ่ายในกิจกรรมต่าง ๆ ที่กำหนดจะดำเนินการในต่างจังหวัด พึงดำเนินการให้ถูกต้อง รัดกุม ปลอดภัย

            ข้อเสนอแนะ 1. โครงการหรือกิจกรรมนี้หากใช้งบประมาณตามประมาณการค่าใช้จ่าย รายการค่าพัฒนาสมาชิกจำนวน 700,000 บาท ควรเขียนเป็นโครงการไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปีด้วย
                            2. การดำเนินการของแต่ละฝ่าย เช่น ฝ่ายจัดหายานพาหนะ ฝ่ายจัดหาที่พัก ฝ่ายจัดหาของขวัญ ฯลฯ  จำเป็นต้องซื้อ หรือจ้าง ต้องดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุ ไม่ควรใช้เหตุผลว่าเร่งรีบ เพราะเป็นงานที่ต้องรับทราบมาตั้งแต่การประชุมใหญ่เสร็จสิ้นลง
                              3. การดำเนินการของแต่ละฝ่ายจำเป็นต้องนำเงินไปใช้จ่าย ซึ่งต้องใช้หลักการยืมเงินทดรองจ่าย แต่ยังไม่ได้กำหนดระเบียบขึ้นใช้ ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมการจึงควรอนุมัติให้ทำสัญญายืม เพื่อการดำเนินการ และกำหนดระยะเวลาส่งใช้หลักฐาน

                                                  สุมารี  อุสาหะ                         ผู้ตรวจสอบกิจการ
                                               จ.ส.อ.ดิเรก   พรประเสริฐ          ผู้ตรวจสอบกิจการ
                                                สุมาลี  ชูจันทร์                          ผู้ตรวจสอบกิการ            
                                               วันชัย  กล้าเอี่ยม                  ผู้ตรวจสอบกิจการ